เที่ยวอย่างอินดี้…นั่งรถไฟรอบเมืองย่างกุ้ง

“ฉันกำลังจะไปพม่า”

เพื่อนๆหลายคนมักทำหน้าแปลกใจเมื่อฉันเอ่ยประโยคนี้ และถามด้วยความสงสัยว่าฉันติดอกติดใจอะไรพม่านัก         บ้างกล่าวว่า พม่าไม่เห็นน่าเที่ยวตรงไหน น่ากลัว ล้าหลัง ห่างไกลอารยธรรม เดินทางลำบาก ไม่สะดวกสบายอย่างที่แหล่งท่องเที่ยวสักแห่งควรจะเป็น แต่สำหรับฉัน ไม่อยากทำความรู้จักกับเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงของเราจากตัวหนังสือ ภาพถ่าย และเรื่องเล่าจากปากคนอื่น ฉันอยากทำความรู้จักกับพม่าด้วยตัวเอง อยากไปย้อนเวลาจินตนาการถึงนวนิยาย “ผู้ชนะสิบทิศ” ที่ฉันชอบอ่านมาตั้งแต่เด็ก

ปี 2014 ฉันและเพื่อนสาวอินดี้อีกสองคนได้แบกเป้ไปคลุกฝุ่นที่พม่ากันครั้งแรกที่เมืองย่างกุ้ง พะโค พุกาม ยองชเว และทะเลสาบอินเล เป็นเวลา 6 วัน

 

ติดตามอ่านเรื่องราวการเดินทางในพม่าตอนอื่นๆได้ตามลิงค์นี้ค่ะ

ตอนที่ 1 เมื่ออินดี้หนีเที่ยวพม่า

ตอนที่ 2 ลัดเลาะซอกแซกเมืองย่างกุ้ง

ตอนที่ 3 เที่ยวอย่างอินดี้…นั่งรถไฟรอบเมืองย่างกุ้ง

ตอนที่ 4 มหัศจรรย์แห่งศรัทธา…พระธาตุอินทร์แขวน

ยอมรับว่าฉันหลงรักพม่าอย่างหัวปักหัวปำ หากให้เปรียบเทียบ พม่าเป็นเหมือนหนังสือเล่มหนึ่งที่รวบรวมหลายวิชามาให้เราได้เรียนรู้แบบ All in One ทั้งประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ศิลปะวัฒนธรรม พุทธศาสนา พม่าเป็นประเทศที่มีภูมิประเทศที่หลากหลายทั้งทะเล ภูเขา ทะเลสาบ ผู้คนที่เป็นมิตร รอยยิ้มที่ชาวพม่าส่งมอบมาให้ ทำให้ฉันอยากให้คำนิยาม “พม่าเมืองยิ้ม” เป็นคู่แข่งกับพี่ไทยไปแบบสูสีได้เลย และสิ่งที่ทำให้ฉันติดใจพม่ามากที่สุด น่าจะเป็นเพราะการเดินทางไปพม่าของฉันเหมือนการนั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปหาภาพอดีตที่สวยงาม ชีวิตที่ชาวกรุงผู้อาศัยอยู่ในตึกสูงระฟ้าอย่างฉันโหยหา

ปีนี้ฉันก็ชวนเพื่อนสาวไปอินดี้ที่พม่ากันอีกครั้ง คราวนี้เราจะเน้นเดินทางไปเมืองต่างๆทางตอนเหนือของพม่า รวมเป็นเวลา 9 วันเต็ม และเพื่อทำภาระกิจชีวิตให้สำหรับ เพราะมุ่งมั่นตั้งใจไว้ว่าในฐานะชาวพุทธ อยากไปสักการะมหาพุทธบูชาของพม่าให้ครบทั้งห้าแห่งด้วย

ครั้งนี้พวกเราเริ่มต้นการเดินทางกันที่เมืองย่างกุ้งอีกเช่นเคย เพราะย่างกุ้งเป็นเหมือนประตูเปิดไปสู่เมืองอื่นๆในพม่า ฉันจึงขอนำเอาเรื่องเล่าการจากเดินทางที่ย่างกุ้งมาเล่าให้ฟังจากการเดินทางทั้งสองปีก่อนที่จะพาไปเมืองอื่นๆค่ะ และครั้งนี้พวกเราก็ได้ผู้สนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองย่างกุ้งอีกครั้ง เมื่อผู้ใหญ่ใจดี “พี่อ๋อ” พี่สาวผู้น่ารักที่เคยร่วมงานกัน และตอนนี้ได้ย้ายติดตามคุณสามีไปทำงานอยู่ที่ย่างกุ้ง พี่อ๋อเอ่ยปากชวนให้พวกเราไปพักที่บ้าน ซึ่งพวกเราก็ไม่คิดที่จะปฏิเสธและถือเป็นการเยี่ยมเยียนพี่สาวได้มีเวลาพูดคุยบอกเล่าเรื่องราวชีวิตสู่กันฟัง หลังจากที่ไม่ได้เจอกันนานหลายปี

ปีที่แล้ว ฉันและเพื่อนได้เดินทางลัดเลาะซอกแซกจนทั่วเมืองย่างกุ้งกันแล้ว ก็มานั่งนึกว่ามีที่ไหนในย่างกุ้งอีกบ้างที่เรายังไม่ได้ไป โดยให้โจทย์กับตัวเองว่า “ย่างกุ้งไม่ได้มีดีแค่วัดวาอาราม” และเป็นที่ๆคนไทยไม่ค่อยได้รู้จัก แล้วบังเอิญสายตาฉันก็ไปสะดุดกับ Circular Train นั่งรถไฟรอบเมืองย่างกุ้ง ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวตะวันตก หลังปรึกษากับพี่อ๋อและเพื่อน ทุกคนเห็นดีเห็นงามกับการนั่งรถไฟกินลมชมวิวกลมกลืนไปกับวิถีชีวิตของชาวย่างกุ้งกัน

เมื่อสามสาวอินดี้เดินทางถึงสนามบินย่างกุ้ง พวกเราก็เดินทางไปพบกับพี่อ๋อ คุณสามีและน้องอด้า สาวน้อยลูกครึ่งไทยตุรกีลูกสาวที่น่ารักของพี่อ๋อ ซึ่งจะร่วมเดินทางไปกับพวกเราด้วย เราเจอกันที่สถานีรถไฟย่างกุ้ง Yangon Central Railway แล้วเดินข้ามสะพานในสถานีข้ามไปยังชานชาลาที่ 6 และ 7 เพื่อซื้อตั๋วรถไฟ

Myanmar_Yangon2_001

ณ ชานชาลาที่  7 เราจะเจอกับห้องขายตั๋วเล็กๆที่อยู่ระหว่างชานชาลา 6-7

Myanmar_Yangon2_009

Myanmar_Yangon2_004

รถไฟวงแหวนย่างกุ้ง หรือ Yangon Circular Railway เป็นระบบรถไฟชานเมืองที่ดำเนินการโดยการรถไฟเมียนมาร์ โดยรถไฟจะวิ่งเป็นวงกลมทั้งแบบตามเข็มนาฬิกา(L)และทวนเข็มนาฬิกา (R) ให้บริการรับส่งผู้โดยสารรอบเมืองย่างกุ้งและเขตปริมณฑลเป็นระยะทางประมาณ 46 กิโลเมตร ผ่านสถานีต่างๆจำนวน 39 สถานี ซึ่งเป็นเส้นทางที่ชาวย่างกุ้งและบริเวณใกล้เคียงใช้เดินทางในชีวิตประจำวัน เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 3.45-22.15 น. ถ้านั่งครบรอบจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง หรือสามารถลงที่สถานีหนึ่งแล้วนั่งย้อนกลับมาอีกฝั่งหนึ่งเพื่อกลับย่างกุ้งก็ได้ ซึ่งเที่ยวเองได้ไม่ยากเลยเพราะทุกสถานีจะมีป้ายทั้งภาษาพม่าและภาษาอังกฤษ สามารถซื้อตั๋วได้ที่ช่องขายตั๋วในสถานีรถไฟย่างกุ้ง ค่าเดินทางเพียง 300 จั๊ต (หรือ 9 บาท) ตลอดสาย

Myanmar_Yangon2_003

ตั๋วรถไฟ ที่ยังใช้ลายมือเขียนบนกระดาษสีซีดๆ น่าเก็บสะสม และเก็บไว้ในความทรงจำ

Myanmar_Yangon2_080

พวกเราซื้อตั๋วรอบ 11.20 น. ระหว่างรอรถไฟ พวกเรามีเวลาเดินรอบๆชานชาลาชมวิถีชีวิตและการเดินทางในชีวิตประจำวันของผู้คนที่ดี ฉันรู้สึกได้ทันทีเลยว่า ฉันตัดสินใจถูกมากที่เลือกรูปแบบการเดินทางในวันนี้ เงินเพียงสิบบาทจะทำให้ฉันได้เห็นและเรียนรู้อะไรมากมายบนรางรถไฟที่ฉันคงประเมินค่ามันไม่ได้

Myanmar_Yangon2_007

Myanmar_Yangon2_006

Myanmar_Yangon2_015

กำลังเดินเพลินๆ เราก็ได้เจอสิ่งที่น่าสนใจสิ่งนี้ นี่คือแผงลอยเล็กๆบนชานชาลาที่ขายน้ำ หมากพลูและขนมขบเคี้ยว แต่น้ำที่ขายไม่ใช่น้ำบรรจุขวดที่รับมาจากโรงงานน้ำ แต่เป็นการขายน้ำที่บรรจุกันณจุดนั้นเลย น้ำแข็งก้อนใหญ่ถูกวางอยู่ด้านบนเหนือถังน้ำ อากาศร้อนๆทำให้นำ้แข็งระเหยและหยดลงสู่ถังน้ำด้านล่าง ขวดพลาสติก(ที่คาดว่าน่าจะทำความสะอาดมาแล้ว) ได้ถูกนำมาใช้ใหม่ สำหรับกรอกน้ำในถังขายให้กับลูกค้า อาจจะไม่ใช่วิธีทำน้ำดื่มขายที่ถูกหลักสุขอนามัยนัก ต่เป็นนวัตกรรมการขายน้ำดื่มที่น่าสนใจมาก…ชีวิตคือการต่อสู้ การต่อสู้ก่อให้เกิดนวัตกรรม

Myanmar_Yangon2_005

การเดินเล่นบนชานชาลา ทำให้ฉันหวนคิดถึงการเดินทางของตัวเองในวัยเด็ก สมัยที่สายการบินราคาประหยัดยังไม่ถือกำเนิดขึ้นในประเทศไทย ฉันอาศัยการเดินทางบนรางรถไฟเป็นหลักในการเดินทางไกลไปเรียนหนังสือที่เมืองกรุง ภาพสถานีชุมทางหาดใหญ่ที่มีแม่ค้าขายข้าวเหนียวไก่ทอด ถั่วต้ม ผลไม้ไม้ดอง ฯลฯ แล่นผ่านเข้ามาในหัว ฉันไม่แน่ใจว่าแม่ค้าที่สถานีรถไฟแห่งนี้จะมีรายได้เพียงพอต่อรายจ่ายและสำหรับเลี้ยงดูครอบครัวหรือไม่ แต่รอยยิ้มและสายตาของพวกเขา ทำให้ฉันรู้สึกว่า พวกเขามีความสุขกับชีวิตช้าๆแบบนี้

Myanmar_Ep2_005

รถไฟหลายขบวนผ่านเข้ามาและออกไปจากชานชาลา เราคอยหันไปถามเจ้าหน้าที่เพื่อความมั่นใจว่า นี่คือขบวนของเราแล้วจริงๆหรือยัง จนเมื่อขบวนรถไฟสีสันสดใสแล่นเข้ามา เจ้าหน้าที่พยักหน้าให้พวกเราเพื่อยืนยันว่า ขบวนรถไฟสีแดงสดใสด้วยโฆษณาเครือข่ายโทรศัพย์ชือดังของพม่าขบวนนี้แหละที่จะพาเราไปทำความรู้จักกับย่างกุ้งในมุมมองใหม่ๆ

Myanmar_Yangon2_008

Myanmar_Yangon2_010

Myanmar_Yangon2_011

ขบวนรถไฟค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากชานชาลาย่างกุ้งไปอย่างช้าๆ สภาพบนรถไฟถือว่าดีเลยทีเดียวค่ะ ที่นั่งเป็นแบบม้านั่งยาวหันหน้าเข้าหากัน คล้ายๆรถไฟฟ้าบ้านเรา มีพ่อค้าแม่ค้านำอาหารมาขายเพียบ ฉันเพลิดเพลินกับการนั่งมองวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อาศัยรถไฟเป็นพาหนะ ผู้คนที่นี่ใช้ชีวิตช้าๆ นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ นั่งหลับ นั่งคุยกัน หรือนั่งทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่างเงียบๆ นักท่องเที่ยวที่มีจำนวนไม่มากเกินไปจึงไม่ได้ทำลายบรรยากาศชีวิตจริงบนรถไฟขบวนนี้

Myanmar_Yangon2_012

Myanmar_Yangon2_014

Myanmar_Yangon2_016

Myanmar_Yangon2_023

บนรถไฟมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของมากมายเลยค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นของกิน ขนมพื้นบ้าน และผลไม้ พวกเราแอบได้ยินกิตติศัพย์เรื่องความสะอาดและปลอดภัยของอาหารริมทางที่พม่ามาเยอะ กลัวว่าอาหารเป็นพิษจะเป็นอุปสรรคในการเดินทาง พวกเราเลยเตรียมเสบียงอาหารมาทานกันบนรถไฟ สนับสนุนโดยพี่อ๋อผู้ใจดีทำอาหารอร่อยๆมาให้พวกเราทั้งแซนวิช ข้าวเหนียวไก่ย่าง ผลไม้ เป็นการปิคนิคบนรถไฟที่ทั้งอิ่มท้องและอิ่มใจเลยค่ะ

Myanmar_Yangon2_013

Myanmar_Yangon2_017

Myanmar_Yangon2_035

Myanmar_Yangon2_036

ป้ายมารยาททางสังคมในการเดินทางบนรถไฟสายนี้ มาการห้ามแสดงความรักแบบโจ่งครึ่มในที่สาธารณะ นับเป็นการรักษาวัฒนธรรมที่ดีของชาวพม่า ที่วัยรุ่นสิงคโปร์และวัยรุ่นไทยควรเอาเป็นแบบอย่าง วันรุ่นพม่าเค้าแสดงความรักกันแบบน่ารักพอประมาณค่ะ ใส่เสื้อคู่ นั่งห่างกันพอประมาณ มองตากัน ส่งยิ้มกันไปมา เป็นภาพน่ารักๆที่คนไม่มีคู่และมากันเป็นคี่แบบพวกเราอดที่จะอิจฉาไม่ได้

Myanmar_Yangon2_019

Myanmar_Yangon2_026

          เห็นภาพนี้แล้วนึกถึงเพลง “ไม่รู้จักฉัน ไมรู้จักเธอ” คนที่มาเดี่ยวก็หามุมส่วนตัวฟังเพลงเป็นพระเอกและนางเอกมิวสิคกันไป

Myanmar_Yangon2_030

สถานีรถไฟบนเส้นทางที่ผ่าน มีทั้งสถานีใหญ่ๆและสถานีเล็กๆ บางสถานีมีเพียงป้ายสถานีบนชานชาลา

Myanmar_Yangon2_021

Myanmar_Yangon2_022

ฉันชอบเดินทางท่องเที่ยวโดยรถไฟ ลมเย็นๆที่พัดผ่านริมหน้าต่างทำให้วันวานการเดินทางในวัยเด็กของฉันพัดกลับมาด้วย วิถีชีวิตของผู้คนบนรถไฟทำให้เรารู้จักและเข้าใจสถานที่แห่งนั้นได้ดีขึ้น วิวทิวทัศน์สองข้างทางรางรถไฟก็ค่อยๆเปลี่ยนจากวิถีชีวิตแห่งชาวเมืองไปเป็นชนบท ผ่านตึกสูงในตัวเมือง สู่หมู่บ้านเล็กๆ ไร่นา การเดินทางที่เรียบง่าย ไม่ตื่นเต้นหวือหวา แต่ทำให้นักเดินทางอย่างเรารู้สึกผ่อนคลายสบายใจ

Myanmar_Yangon2_020

Myanmar_Yangon2_039

Myanmar_Yangon2_025

Myanmar_Yangon2_032

Myanmar_Yangon2_033

ไฮไลท์ของเส้นทางรถไฟสายนี้ก็คือ ตลาดสดที่สถานี Danyin Gone ที่นี่คึกคักมากค่ะ เป็นเหมือนตลาดค้าส่งสินค้าทางการเกษตร พ่อค้าแม่ค้าตั้งแผงขายผักและผลไม้แทบจะชิดรางรถไฟ เมื่อขบวนรถไฟจอดที่สถานีชาวบ้านจำนวนมากขนสินค้าขึ้นมาบนรถไฟจนเปลี่ยนสภาพจากขบวนรถไฟขนส่งมวลชนเป็นขบวนรถไฟขนส่งผักผลไม้แทน ซึ่งเดาว่าชาวบ้านเหล่านี้น่าจะมาซื้อสินค้าที่นี่เพื่อนำไปขายต่อที่อื่น

Myanmar_Yangon2_045

Myanmar_Yangon2_044

Myanmar_Yangon2_034

คนพม่าขยันทำงานและสู้ชีวิต ภาพที่ฉันเห็นบนรถไฟที่นี่ไม่ต่างจากแรงงานชาวพม่าที่เมืองไทย ชีวิตที่เรียบง่าย ไม่เร่งรีบและกลมกลืนกับธรรมชาติเป็นความประทับใจที่คนเดินทางไกลมาจากเมืองใหญ่อดอิจฉาผู้คนที่นี่ไม่ได้ คนพม่าใจดี ยิ้มง่าย และเป็นมิตร โดยเฉพาะเมื่อเขารู้ว่าพวกเราเป็นคนไทย เขาจะยิ้มกว้างๆออกมาทักทาย คนที่เคยมาทำงานเมืองไทยจะพูดภาษาไทยได้ ก็จะชวนคุยเล่าเรื่องราวตอนที่เขามาใช้ชีวิตในเมืองไทยด้วยความรู้สึกดีๆ ส่วนคนที่พูดภาษาไทยไม่ได้ก็จะใช้รอยยิ้มมาทำลายกำแพงกับคนแปลกหน้า ความสุภาพของคนพม่าเป็นอีกหนึ่งในความประทับใจของฉัน ในสถานที่ท่องเที่ยวใหญ่ๆอาจจะเป็นธรรมดาที่พ่อค้าแม่ค้าจะเข้ามารุมเพื่อนำเสนอสินค้า แต่พวกเขาจะไม่เข้ามาดึงรั้งถูกเนื้อต้องตัวให้ตกใจ ยิ่งบนรถไฟขบวนนี้ พวกเขาจะแค่ส่งสายตาเข้ามาเป็นถามก่อนว่า สนใจรับสินค้าของเขาไหม สำหรับฉัน คนพม่าใจดีและไม่ได้เป็นผู้ร้ายอย่างที่ใครหลายคนเคยบอกไว้

Myanmar_Yangon2_018

Myanmar_Yangon2_029

Myanmar_Yangon2_028

Myanmar_Yangon2_027

เวลาสามชั่วโมงบนรถไฟวงแหวนย่างกุ้งผ่านไปไม่ช้าไม่เร็ว พวกเรานั่งตามลมชมวิวชมผู้คนกันเพลินๆ มารู้ตัวอีกทีก็เริ่มมีภาพตึกสูงๆวนกลับเข้ามาริมหน้าต่าง เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเรากำลังเดินทางวนกลับเข้ามาในตัวเมืองย่างกุ้งอีกครั้ง

Myanmar_Yangon2_038

Myanmar_Yangon2_042

การนั่งรถไฟรอบเมืองย่างกุ้งครั้งนี้สนุกกว่าที่คิด และได้พบเห็นอะไรหลายอย่างที่มากกว่าการไปกับทัวร์ เหมือนเราเดินทางไปเพื่อดูการเดินทางของผู้คนที่นั่น

Myanmar_Yangon2_024

Myanmar_Yangon2_041

แล้วเราก็วนรอบกลับมาเข้าสู่สถานีรถไฟกลางของเมืองย่างกุ้งอีกครั้ง ฉันหันไปมองขบวนรถไฟสีสันสดใสเป็นครั้งสุดท้าย ไม่น่าเชื่อว่าเงินเพียง 9 บาท และเวลา 3 ชั่วโมง ทำให้โลกของฉันกว้างขึ้นอีกหลายเท่า ณ ตอนนั้น ฉันอยากบอกทุกคนว่า ย่างกุ้งไม่ได้มีดีแค่วัดวาอาราม หากเราลองเปิดใจออกไปมองย่างกุ้งในมุมใหม่ๆ เราก็จะได้เห็น “อดีต” ฉันเชื่อว่าเมื่อหลายสิบปีก่อน กรุงเทพเมืองฟ้าอมรก็คงมีบรรยากาศใกล้เคียงแบบนี้

Myanmar_Yangon2_047

และการเดินทางสั้นๆครั้งนี้ก็ทำให้ฉันเรียนรู้ว่า “ชีวิต คือการเดินทางทุกวัน”

Myanmar_Ep2_006

การเดินทางครั้งนี้อาจไม่สนุก ไม่อิ่ม ไม่สบาย หากไม่ได้ความเอื้อเฟื้อจากพี่อ๋อ ออสก้า และสาวน้อยอด้าที่มาสร้างสีสัน ขอบคุณที่ดูแลพวกเราเป็นอย่างดีเลยค่ะ

Myanmar_Yangon2_031

Myanmar_Yangon2_037

และที่สำคัญก็ต้องขอบคุณเพื่อนสาวสองคนที่ร่วมขบวนการอินดี้นั่งกินลมชมวิวรอบเมืองย่างกุ้งด้วยกัน พี่เจแปนกับเพื่อนกบค่ะ

Myanmar_Yangon2_079


ตลาดโบจ๊กออซาน Bogyoke Aung San Market


            หลังจากนั่งรถไฟเที่ยวซะรอบเมืองย่างกุ้งแล้ว พวกเราก็นึกขึ้นได้ว่า ยังไม่ได้ไปเที่ยวตลาดดังที่ใหญ่ที่สุดของพม่ากันเลย ระหว่างทางได้แวะซื้อมันเผาและข้าวโพข้างทางทาน หอม หวาน อร่อยมากๆ

Myanmar_Yangon2_048 

              ตลาดโบจ๊กอองซาน หรือเรียกกันอีกชื่อว่า ตลาดสก๊อต (Scott Market) สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยที่พม่ายังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ฉันได้ยินมาว่าทำให้คนไทยขาช๊อปกระเป๋าฉีกมาหลายราย เพราะมีสินค้าล่อตาล่อใจให้ซื้อมากมาย ทั้งเครื่องประดับ หยก อัญมณี ไม้แกะสลัก ภาพเขียน เครื่องเงิน เครื่องถ้วยชาม ผ้าปัก โสร่งชายหญิง เกือบทุกร้านมีป้ายชื่อเป็นภาษาไทย ช่วงนั้นเป็นช่วงที่สร้อยข้อมือหยกและหินสีกำลังเป็นที่นิยม เราจึงได้เห็นนักช๊อปชาวไทยเต็มตลาด บ้างเลือกเครืองประดับ บ้างต่อรองราคากับพ่อค้าแม่ค้าชาวพม่าที่พูดไทยฉะฉาน นักชมอย่างเราก็เลยเดินชมกันเพลินไปเลยค่ะ

Myanmar_Yangon2_049

Myanmar_Yangon2_050

Myanmar_Yangon2_051

Myanmar_Yangon2_052

Myanmar_Yangon2_056

เมื่อเดินชมกันจนอิ่มตา ของมันเยอะไปหมดจนตาลาย และสุดท้ายก็ไม่มีใครอะไรติดไม้ติดมือกันเลย เดินออกมาด้านนอก ก็จะเจอร้านขายอาหารมากมาย ทั้งร้านใหญ่และแผงลอยขายาหารริมถนน น่าสนใจดี แต่เราก็ไม่กล้าชิมกันค่ะ เก็บท้องไว้สำหรับอาหารค่ำมื้อคืนนี้ เพราะเรามีนัดเจอกับพี่สาวอีกคน “พี่ดิส” ที่ไปทำงานอยู่ที่ย่างกุ้งเหมือนกัน เป็นการรวมพลคนไทยในย่างกุ้งเลยทีเดียว

Myanmar_Yangon2_053

Myanmar_Yangon2_054

Myanmar_Yangon2_055


มหาเจดีย์ชเวดากอง…ครั้งเดียวไม่พอ


            ฉันกับพี่เจแปน เราเคยไปชมและสักการะมหาเจดีย์ชเวดากองกันแล้วเมื่อปีก่อน แต่นี่เป็นการเดินทางมาย่างกุ้งครั้งแรกของกบ พวกเราเลยเดินทางไปสักการะเจดีย์ชวดากองกันอีกครั้ง ถึงแม้จะทราบข่าวว่าองค์เจดีย์กำลังอยู่ในช่วงบูรณะปฏิสังขรณ์ ซึ่งวัดและเจดีย์เกือบทุกแห่งในพม่าจะมีการบูรณะทุกๆห้าปี เราจะได้ร่วมทำบุญบูรณะเจดีย์กันด้วย โอกาสแบบนี้หาได้ไม่ยากนัก

ครั้งที่แล้วเรามาถึงเจดีย์ชเวดากองกันตอนค่ำแล้ว ครั้งนี้เราเลยขอชมบรรยากาศตอนกลางวันยามบ่ายกันบ้าง ถึงแม้องค์เจดีย์จะถูกปกคลุม แต่สีทองอร่ามที่ตัดกับท้องฟ้าก็ไม่ได้ทำให้ความงดงามของชเวดากองลดน้อยลงไปเลย

Myanmar_Yangon2_064

Myanmar_Yangon2_063

Myanmar_Yangon2_062

Myanmar_Yangon2_061

นอกจากองค์เจดีย์แล้ว ที่นี่ยังมีสถานที่สำคัญมากมายเลยค่ะ หากจะให้บรรยายประวัติเรื่องราวเฉพาะที่นี่คงเขียนได้อีกหลายหน้าเลย มีหนังสือมากมายเกี่ยวกับเจดีย์ชเวดากองที่สามารถหาอ่านศึกษาข้อมูลกันได้ ฉันขอเอาบรรยากาศบางส่วนมาให้ชมก็แล้วกัน

Myanmar_Yangon2_057

Myanmar_Yangon2_065

Myanmar_Yangon2_059

Myanmar_Yangon2_068

Myanmar_Yangon2_074

ถึงแม้จะอยู่ในช่วงบูรณะปฏิสังขร ชาวพม่าก็ยังคงเดินทางมาสักการะบูชาเจดีย์ชเวดากองกันไม่ขาดสาย แต่เห็นได้ชัดว่านักท่องเที่ยวชาวไทยลดน้อยลงมากค่ะ ไม่แน่ใจว่าเพราะเป็นช่วงบ่ายหรือเพราะเหตุผลอื่น เคยอ่านเจอในอินเตอร์เนตตามรีวิวต่างๆ ซึ่งมีคนไทยจำนวนไม่น้อยเลยที่ยอมเปลี่ยนวันเดินทางเมื่อทราบว่าที่นี่มีการปรับปรุง ซึ่งจริงๆแล้ว อยากให้การเดินทางมาที่นี่ เป็นการเดินทางด้วยใจศรัทธามากกว่านะคะ

Myanmar_Yangon2_069

Myanmar_Yangon2_070

Myanmar_Yangon2_058

เสื้อคู่แบบชุดประจำชาติพม่า หญิงชายนุ่งซิ่นและโสร่งมาทำบุญร่วมกันที่วัด โรแมนติกดีนะ คนโสดอิจฉาอีกแล้ว

Myanmar_Yangon2_071

ณ ลานอธิษฐาน พวกเราได้เจอสาวน้อยพม่า เธอน่ารัก สดใส อารมณ์ดี ขี้เล่น พวกเราเล่นและถ่ายรูปกับเธออยู่นาน จนนาฬิกาบอกเวลาว่าใกล้ถึงเวลานัดทานข้าวเย็นของเราชาวไทยในย่างกุ้งกันแล้ว

Myanmar_Yangon2_073

Myanmar_Yangon2_072

พวกเราเดินกลับมาขึ้นรถ โดยลงลิฟท์ทางฝั่งทิศใต้เพื่อเดินทางกลับไปล้างหน้าล้างตาที่บ้านของพี่อ๋อ ก่อนไปทานอาหารเย็นกัน ฉันหันกลับไปมององค์เจดีย์ใหญ่บนเนินเขาอีกครั้ง รู้สึกดีที่ได้กลับมาที่นี่อีก และมั่นใจว่าวันหนึ่งฉันจะได้กลับมาสักการะองค์มหาเจดีย์ชเวดากองอีกครั้ง

Myanmar_Yangon2_075


ร่ำลาย่างกุ้ง…ก่อนมุ่งหน้าสู่เมืองต่อไป


หลังจากกลับมาจากทานอาหารเย็นและนัดพบปะสังสรรค์กันของเพื่อนชาวไทยในย่างกุ้ง พวกเราก็กลับมานอนพักเอาแรงที่บ้านของพี่อ๋อ เพราะวันรุ่งขึ้นต้องตื่นเช้าเพื่อเดินทางกันต่อ

บ้านของพี่อ๋ออยู่ใกล้กับทะเลสาบกันดอว์จี ซึ่งหากใครได้อ่านในตอนก่อนหน้า ก็จะทราบว่าฉันเข้าผิดทางเลยไม่ได้ถ่ายภาพภัตตาคารการเวกจากด้านหน้า เช้าวันใหม่ ฉันเดินออกไปตรงระเบียง บรรยากาศในสวนสาธารณะริมทะเลสาบกันดอว์จีที่ได้เห็นจากมุมสูง ทำให้ฉันอยากออกไปเดินเล่นที่นั่นนัก แต่เราไม่มีเวลามากนัก เลยได้แต่มองชาวพม่าเดินเล่นอกกำลังกาย และถ่ายภาพภัตตาคารการเวกด้านหน้ามุมสูง ก็สวยดีนะ แม้จะไกลไปนิด แต่ก็ประหยัดค่าเข้าชมไปเลย

Myanmar_Yangon2_077

Myanmar_Yangon2_076

ขอขอบคุณพี่อ๋อและพี่ดิสอีกครั้งสำหรับการต้อนรับอันอบอุ่นและการดูแลที่สุดประทับใจ แล้วจะไปเยี่ยมอีกนะคะ


ย่างกุ้ง การเดินทางที่อิ่มบุญ อิ่มท้อง และอิ่มใจ

จดจำภาพงดงามนี้ไว้ในใจ แล้วเจอกันใหม่….

ณ ที่ใดที่หนึ่งบนผืนแผ่นดินพม่า เพราะยังมีเรื่องเล่าจากกระเป๋าเดินทางจากอีกหลายๆเมืองเลยค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามกันมาเสมอ

พูดคุยและแลกเปลี่ยนเรื่องเล่าจากกระเป๋าเดินทางกันได้ที่

6 thoughts on “เที่ยวอย่างอินดี้…นั่งรถไฟรอบเมืองย่างกุ้ง

  1. ขอบคุณสำหรับคำบอกเล่าประสบการณ์นะคะ กำลังเดินทางไปย่างกุ้งอาทิตย์หน้า การนั่งรถไฟรอบเมืองน่าสนใจมากเลยค่ะ ดีใจมากเลยที่มีคนไทยรีวิวเกี่ยวกับเรื่องนี้ 🙂

    Like

    1. สวัสดีค่ะ แนะนำมากๆเลยค่ะนั่งรถไฟรอบย่างกุ้ง เห็นวิถีชีวิตจริงๆของคนที่นั่นเลยค่ะ ขอให้เที่ยวสนุก เดินทางปลอดภัย กลับมาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ

      Like

Leave a comment